วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ปอร์ตุกีส วอเตอร์ด็อก "หมาน้ำ" แห่งทำเนียบขาว

วอเตอร์ด็อก (Water dog) มี นิสัยกระตือรือร้น เฉลียว ฉลาด ร่าเริง เชื่อฟังคำสั่ง เรียนรู้ได้เร็ว ฉลาด มีความยืดหยุ่นสูง เด็ดเดี่ยว คึกคักตลอดเวลา มองโลกในแง่ดี อีกทั้งมันยังชอบว่ายและดำน้ำ ฝึกให้คาบเครื่องมือหาปลาที่ชำรุดกลับมายังชายฝั่ง เมื่อออกทะเลสามารถให้ช่วยไล่ต้อนฝูงปลา ส่งสารระหว่างชาวประมงที่อยู่ในน้ำกับคนบนฝั่งได้
...พวกมันปรับตัว อดทนได้เป็นอย่างดีแม้สภาพอากาศของทะเลจะแปรปรวน เลวร้ายซักเพียงใด เจ้า หมาน้ำ จะมีรูปร่างขนาดกลางไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป กล่าวคือ
หัว ขนาดใหญ่ได้สัดส่วน มีรอยย่นตรงกลางหน้าผาก
ดวงตา กลมสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำขลับซึ่งถือว่าเป็นลักษณะดี บริเวณโดยรอบดวงตามีสีดำ น้ำตาล หรือขาว หางตา ไม่ตก
ปาก หนา กว้างเป็นสีน้ำตาล จมูก ใหญ่ สีดำ น้ำตาลเข้ม หรือขาว ซึ่งสองส่วนนี้จะยื่นออกมาจากกะโหลกด้านบน
เหงือก สีค่อนข้างคล้ำ แต่บางตัวอาจเป็นสีดำ น้ำตาลเข้ม ดำสลับ หรือขาวล้วน เมื่อหุบปากต้องไม่เห็นฟันยื่นออกมา ฐานของจะงอยปาก ต้องกว้างกว่ากะโหลก
ใบหู อยู่ระดับเหนือดวงตา ไม่ตกลู่ต่ำกว่าระดับขากรรไกร ซึ่งมีพละกำลังแข็งแรง ส่วนท้ายทอยกว้าง ช่วงลำคอ สั้น ตั้งตรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไม่มีเหนียงยื่นออกมา อก กว้างมีระดับพอดีกับส่วนข้อต่อของขาหน้า ผิวหนัง สีชมพู ลำตัว เพรียว มองภาพรวมทั้งหัวกับส่วนกะโหลก โค้งเป็นรูปโดม
สะโพก กลมกลึงมีความสมดุลกับช่วงลำตัว
หลัง ได้ขนาด แนวขา ตรงขนาน
ขน หนา มีสีหลากหลาย
หาง ซึ่งหลายคนบอกว่ามีส่วนช่วยในการว่ายน้ำจะชี้ตรง แต่ถ้า ปอร์ตุกีส วอเตอร์ด็อก อยู่ในภาวะตื่นตัว ระวังภัยจะม้วนเป็นวง
ขนาด สัดส่วนตัวผู้ซึ่งเป็นหนุ่มเต็มที่มีความสูงเฉลี่ยประมาณ 20-23 นิ้ว เพศเมีย 17-21 นิ้ว และความยาวช่วงลำตัวต้องมากกว่าส่วนสูง โดยวัดจากช่วงปลายจมูกไปถึงสะโพกส่วนล่าง แต่ขนาดนิยมและนับว่าสมบูรณ์แบบสุดในเพศผู้ ความสูงที่ 22 นิ้ว ส่วน น้องหมาสาว ความสูง 19 นิ้ว จัดว่าเป็น สุดยอดแห่ง... ปอร์ตุกีส วอเตอร์ด็อก ที่ดีสุด
จากการใช้ฝีปากที่แข็งแกร่ง บวกกับความทรหดทนน้ำ ทนอากาศ ส่งผลให้ชาวประมงโปรตุเกส ยกให้พวกมันเป็นเพื่อนข้างกายที่ซื่อสัตย์ มานานหลายศตวรรษ มิหนำซ้ำในทศวรรษนี้ มันยังถูกคัดเลือกให้ เป็น "สุนัขหมายเลข 1" ประจำทำเนียบขาวปี 2009...
แต่ยังไงซะก็อย่ามองข้ามธรรมชาติของสัตว์หน้าขน ที่บางครั้งก็มีพฤติกรรมแปรปรวนไปจนถึงขั้น ดุร้าย ได้เช่นกัน!!

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อาหารทีเป็นพิษกับสุนัข



1. ก้าน ใบ เมล็ด ของ แอปเปิ้ล อัลมอนด์ แอปริคอต พีช เชอรรี่ป่า ลูกพลัม ลูกแพร์ ลูกพรุน และผลไม้ที่คล้ายๆ กัน จะทำให้เกิดอาการท้องร่วง อาเจียน ปวดท้อง โดยเมล็ดของผลไม้เหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีไซยาไนด์ ซึ่งเป็นพิษทั้งกับคนและน้องหมา

2. อโวคาโด ทั้งผล เมล็ด ลำต้น เป็นพิษกับสุนัขทั้งหมด เป็นสาเหตุให้หายใจลำบาก น้ำท่วมปอด เจ็บหน้าอก ปวดท้อง

3. บลอคโคลี่ ทำให้เกิดแก๊สในท้องจำนวนมาก

4. เชอร์รี่ ทำให้หายใจเร็ว ช็อค ปากบวมเห่อ อัตราการเต้นขอวหัวใจเร็วขึ้น

5. ช็อคโกแล็ต ยิ่งอบยิ่งอันตรายมาก ที่น้องม๋าทานซ็อคโกแล็ตไม่ได้เพราะสาร theobromine ในเม็ดโคคาเป็นอันตรายต่อน้องม๋า ถ้าได้รับในปริมาณมากจะทำให้เกิดลมชักตายได้

6. ชา กาแฟ มีคาเฟอีน และน้ำตาล อาจจะทำให้เกิดอาการคล้ายๆ กับการกินช็อคโกแล็ต
7. กระดูกที่ทำให้สุกแล้วไม่ควรให้สุนัขกิน เพราะขั้นตอนที่ย่อยอาจจะเป็นอันตรายกับอวัยวะข้างใน แต่กระดูกที่ดิบกินได้ปลอดภัยกว่า

8. เห็ด จะทำให้อาหารไม่ย่อย มีผลในการทำลายต่อตับไต เกิดอาการ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน

9. ลูกจันทน์ จะเกิดอาการใจสั่น หรืออาจเกิดอาการลมชักอย่างปัจจุบันทันด่วน และตาย

10. ยาสูบ ทำให้น้ำลายฟูมปาก คลื่นไส้ อาเจียน ภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ

11. หัวหอม เกิดแก๊ส ทำให้ (ร่างกาย) ไม่ปกติ อ่อนกำลัง ทำลายเม็ดเลือดแดง

12. องุ่น ลูกเกด ลูกพรุน ทำให้ไตล้มเหลว ถึงตายได้แม้องุ่นเพียงนิดเดียว

13. เกลือ ถ้ากินมากเพราะจะมีผลต่อไต

14. ไข่ดิบ อาจมีเชื้อเชื้อแซลโมเนลล่าทำให้สุนัขเกิดโรคทางเดิน อาหารได้ แต่ไช่สุกทานได้

15. ถั่วแมคคาดาเมีย ถั่วแมคคาดาเมีย จะทำให้กล้ามเนื้อสุนัขอ่อนแรง เกิดความหดหู่ อาเจียน การไม่ประสานกัน ใจสั่น เป็นไข้ ปวดเกร็งท้อง อาการเพลียของกล้ามเนื้อ โดยจะส่งผลกับขาหลังของสุนัขมากกว่าขาหน้า บางทีขาหลังอาจเป็นหนักถึงอัมพาต อาการเหล่านี้จะหายไปหลังจากกินถั่วนี้ไปแล้ว 72 ชั่วโมง

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl แมวน่ารัก หูพลิก


แมวพันธุ์ อเมริกัน เคิร์ล American Curl ถือเป็นแมวที่มีชื่อเสียงมากอีกพันธุ์หนึ่ง ด้วยลักษณะเด่นของ American Curl คือ มีหูม้วนหลุบไปข้างหลัง เป็นลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนแมวพันธุ์อื่น อเมริกัน เคิร์ล เป็นแมวที่ร่าเริงไม่ดุ มีนิสัยเป็นมิตรกับผู้คน ซื่อสัตย์ เข้ากันได้ดีกับเด็ก ๆ และสัตว์อื่นในบ้าน ว่ากันว่า อเมริกัน เคิร์ล มีลักษณะคล้ายสุนัขอีกด้วย
ประวัติ แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl ถูกค้นพบในชุมชน California ของ Lakewood โดย Joe และ Grace Ruga ในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.1981 Joe กลับจากทำงานตอนเย็นนั้นและพบลูกแมว 2 ตัวอายุ 6 เดือน ภายนอกบ้านของเขา จึงรับมาเลี้ยงดู พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าพวกมันมีหูที่เป็นวงนั้นจากหลังถึงหัว ดูแล้วเป็นที่น่าขัน ลูกแมวตัวที่เป็นพี่ มีสีดำกับขนยาวและอีกตัวหนึ่ง มีขนสีดำ และสีขาวและขนกึ่งยาว ทั้งสองมีขนนุ่มเป็นมันเรียบคล้ายไหม ลูกแมวทั้งสองถูกตั้งชื่อว่า Shulamith และ Panda
ต่อมาในเดือนธันวาคม ค.ศ.1981 หลังการตกลูกครอกแรกของ Shulamith พวกเขาจึงได้มองเห็นถึงการมีใบหูที่มีลักษณะที่พิเศษไม่เหมือนใครของมัน แสดงถึงการค้นพบพันธุ์ใหม่ของแมว พวกเขาเริ่มต้นการวิจัยและการทดสอบเพาะพันธุ์โดยทันที ซึ่งนำมาสู่การยอมรับและได้รับการจดทะเบียนเป็น อเมริกัน เคิร์ล American Curl แมวพันธุ์ใหม่ของโลกในปี ค.ศ.1986 ซึ่งแมวพันธุ์นี้ถือว่าเป็นแมวที่สามารถแบ่งพันธุ์ได้ทั้งสองชนิดคือมีทั้ง แบบ Shorthair และ Longhair
ลักษณะทั่วไปของ แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl
แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl ตัวผู้จะมีลักษณะสวยงามและสง่างามกว่า แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl ตัวเมีย โดยเพศเมียมีน้ำหนักประมาณ 5-8 ปอนด์ เพศผู้หนักประมาณ 7-10 ปอนด์ โตเต็มที่เมื่ออายุ 2 ปีครึ่งถึง 3 ปี เมื่อแรกเกิด ลูกแมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl หูจะยังไม่พลิก แต่เมื่อผ่านไปราว 2 สัปดาห์ หูก็จะเริ่มพลิกม้วนไปด้านหลังมากขึ้น จนเมื่ออายุได้ 16 สัปดาห์ หูจะเริ่มพลิกไปด้านหลังอย่างถาวร โดยหูจะม้วนไปข้างหลังอย่างน้อย 90 องศา แต่ไม่ถึง 180 องศา
ลักษณะเด่นของแมวพันธุ์นี้ นอกจากจะมีหูพลิกแล้ว ยังมีร่างกายขนาดกลางที่สมส่วน ขนเป็นมันหนาแน่น ดวงตาเป็นรูปวอลนัท โดยขนจะไม่ยาวมาก เป็นแบบกึ่งสั้นกึ่งยาว ขนจะเรียบไม่ฟู แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl มีหลากหลายสีและรูปแบบ เนื่องจากขนที่หนาแน่นนี้เอง ทำให้ แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curlต้องการการดูแลขนมากเป็นพิเศษ
ศีรษะ
รูปร่าง: เป็นรูปลิ่มไม่แบนราบ อย่างพอประมาณยาวกว่ากว้าง ระนาบราบรื่น
โครงร่าง: จมูกมี ความยาวและตรงพอประมาณ และนูนล็กน้อยขี้นจากด้านล่างของตาถึงหน้าผาก เส้นโค้งที่ได้รูปไปถึงด้านบนสุดของหัว ไปจนถึงใต้ลำคอ
ขนาด: ปานกลางในสัดส่วนเมื่อเทียบกับร่างกาย
คาง: แน่น แข็ง,แนวเดียวกับจมูกและริมฝีปากล่าง
ใบหู
องศา: น้อยที่สุด 90 ส่วนโค้งองศาเป็นวง ไม่เกิน 180 องศา แน่นด้วย cartilage จากพื้นฐานหูถึงอย่างน้อย 1/3 ของความสูง
รูปร่าง: กว้างที่ฐานและเปิด, เส้นโค้งหลังในส่วนโค้งราบเรียบเมื่อดูจากด้านหน้าและด้านหลัง
ขนาด: ใหญ่อย่างพอประมาณ
ที่ตั้ง: ตั้งตรงอยู่บริเวณส่วนบนแต่ละด้านของหัวอย่างเท่าๆกัน
หมายเหตุ: เมื่อหูมีการตื่นตัวเกิดขึ้น หูจะเหยียดชี้ตรงไปด้านหน้า, เส้นตามความโค้งของหูจะชี้ไปยังศูนย์กลางฐานของกระโหลกศีรษะ(เส้นโค้งที่ลากผ่านตามความโค้งของหูผ่านปลายสุดของหูเลย 90 และสูงถึง180 องศา อาจจะ intersect ที่จุดไกลกว่าขึ้นบนกระโหลกศีรษะ แต่ไม่เลยจุดสูงสุดของกระโหลกศีรษะ)
ร่างกาย
ดวงตา : ใหญ่ กลมรีเหมือนเมล็ดอัลมอนด์ สี Hazel เขียว หรือเหลือง เท่านั้น มีเส้นสีดำ รูปร่างลำตัว : กึ่งต่างประเทศ เป็นสี่เหลียมผืนผ้า, ความยาว 1 และ 1 ใน 2 ความสูงที่บ่า, ความลึกกลางของหน้าอกและสีข้าง
ขนาด : ปานกลาง, แต่ตัวผู้มักขนาดใหญ่กว่า ลักษณะกล้ามเนื้อ : ความแข็งแรงพอประมาณและน้ำเสียงมีการ เปลี่ยนแปลง
หาง : งอได้, กว้างที่ฐาน,เรียวเท่าตลอดความยาวร่างกาย
ขา : ความยาวปานกลางในสัดส่วนเพื่อร่างกายตั้งโดยตรงเมื่อดูจากด้านหน้าหรือด้านหลัง ขนาดกระดูกปานกลางไม่ใหญ่และหนัก
คอ : ปานกลาง
เท้า : ปานกลาง
ลักษณะนิสัย แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl
แมวพันธุ์นี้จะไม่ค่อยเปล่งเสียงร้องบ่อยนัก จะมีเพียงแต่เสียงเล็ก ๆ ครางในลำคอเท่านั้น

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อาหารสำเร็จรูปเจ้าตูบ

เลือกอาหารสำเร็จรูปให้เจ้าตูบ
คงต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ตลาดอาหารสำเร็จรูปของสุนัขนั้น เติบโตขึ้นอย่างมาก จะเห็นได้จากอาหารสุนัขสำเร็จรูปมากมายหลายยี่ห้อ พาเหรดกันเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละยี่ห้อต่างก็มีคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป
เมื่อในท้องตลาดมีอาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัขวางขายอยู่มากมาย บางครั้งการที่จะเข้าไปเลือกซื้อก็อาจทำให้เจ้าของสุนัขบางท่านรู้สึกสับสนได้ว่าจะเลือกซื้อยี่ห้อไหนดี ถึงจะให้ประโยชน์แก่เจ้าตูบอย่างสูงสุด มาดูกันว่าวิธีการเลือกอาหารสำเร็จรูปให้กับเจ้าตูบนั้น เราจะพิจารณาในเรื่องใดบ้าง
สารอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของสุนัข
คาร์โบไฮเดรต
เป็นแหล่งสำคัญที่ให้พลังงานแก่สัตว์ทั้งหมด มีแหล่งที่มาจากพืช เช่น Ground corn (ข้าวโพด), Wheat (ข้าวสาลี), Barley (ข้าวบาร์เลย์) เป็นต้น
โปรตีน
ร่างกายจะดูดซึมกรดอะมิโนที่จำเป็นจากแหล่งโปรตีนประเภทเนื้อสัตว์ได้ดีกว่าพืชโดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อไก่ ส่วนโปรตีนจากพืชบางชนิด เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลืองจะมีสารบางอย่างที่ขัดขวางการยอ่ยทำให้ร่างการสุนัข ไม่สามารถดูดซมสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่
ไขมัน
ควรมีแหล่งที่มาจากไขมันสัตว์เพราะสุนัขสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่าไขมันจากพืช
เส้นใยอาหาร
ควรได้มาจากเส้นใยของพื้ชที่ร่างกายสัตว์ไม่สามารถย่อยได้แต่จำเป็นต้องมีเพื่อช่วยในการย่อย อาหารของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่เช่น Beet Pulp (เส้นใยจากหัวบีท) และไม่ควรมีเกินกว่า 5% เพราะจะไปขัดขวางการดูดซึม สารอาหารที่มีประโยชน์อื่น ๆ วิ
ตามิน/เกลือแร่
เป็นส่วนที่มีอยู่น้อยแต่สำคัญและขาดไม่ได้ เนื่องจากมีผลต่อความมันเงาของขนสัตว์เลี้ยง
วัตถุกันเสีย
ควรใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น วิตามินอี และวิตามินซี เป็นต้น นอกจากนี้ การตัดสินใจเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูปนั้นต้องดูจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกัน เป็นต้นว่า ราคาของสินค้าและคุณภาพผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

การเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัข
1. ให้ดูที่ฉลากว่าได้ผ่านการรับรองจากกรมปศุสัตว์แล้วให้ดูข้างถุงหรือกระป๋องจะมีทะเบียนอาหารสัตว์อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าอาหารนี้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาแล้ว
2. ให้ดูวันหมดอายุทุกครั้งที่ซื้อ อาหารก็มีวันหมดอายุให้ดูทุกครั้งที่กระป๋องหรือถุง และหากใกล้วันหมดอายุก็ไม่ควรซื้อมา เพราะจะเก็บไว้ไม่ได้นาน
3. ไม่ควรซื้ออาหารแบบแบ่งขาย เพราะไม่มีฉลากและวันหมดอายุบอกไว้ เราจึงไม่ทราบที่มา และอาจไม่ปลอดภัยต่อสุนัขด้วย เพราะอาจเก็บไว้ไม่ดี ทำให้อาหารสดใหม่
4. การเลือกให้เลือกตรงกับช่วงวัยของสุนัข เพราะทางผู้ผลิตจะระบุสัดส่วนโปรตรีนที่เหมาะสมมาแล้ว และรูปแบบของอาหารก็เหมาะกับสุนัขแต่ละวัย ดังนั้นให้ดูว่าสุนัขของคุณอยู่ในวัยไหนก็เลือกแบบนั้น
5. การเก็บอาหารต้องให้สะอาด การเก็บอาหาร ควรเก็บอย่างสะอาดและกันลมเข้าจะทำให้เหม็นหืนได้ง่าย และอาหารจะไม่กรอบ สุนัขก็จะไม่รับประทาน ดังนั้นเมื่อเปิดถุงแล้วควรหาภาชนะที่ปิดสนิทมาไว้ใส่อาหาร
เมื่อเราเลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์ และมีคุณภาพสูงให้กับสุนัขแล้ว ก็คงไม่จำเป็นต้องให้อาหารเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก นอกจากจะช่วยทำให้สุนัขมีสุขภาพดี ยังเป็นการประหยัดรายจ่ายได้อีกทางหนึ่งด้วย

เหมียวพันธุ์อเมริกัน บ็อบเทลล์


อเมริกัน บ็อบเทล แมวพันธุ์นี้ มองในครั้งแรกคุณจะเห็นเหมือนเป็นบ็อบแคทธรรมดา แต่ถ้าหันมาเพ่งดูแล้วคุณก็จะเห็นสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งที่จะทำให้คุณหลงรักมันได้ในทันที แค่ได้สบตากับมันคุณก็จะรู้สึกตะลึงกับความน่ารัก ขนที่สะอาด ดูเป็นระเบียบ และอเมริกัน บ็อบเทล มักกระพริบตาให้ จนคุณอดไม่ได้ที่จะเข้าไปจับขนที่หนานุ่มและอุ้มมันขึ้นมา

แต่ทันทีที่คุณเอื้อมมือไป มันจะยืนขึ้นและเหยียดตัวทำให้คุณได้เห็นร่างกายที่แข็งแรงและหางที่สั้นตามธรรมชาติ ซึ่งแน่ใจได้เลยว่ามันมีความเป็นสัตว์ป่าอยู่ในตัว และเจ้าแมว อเมริกัน บ็อบเทล มันจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาคุณเพื่อเรียกร้องความสนใจและเมื่อ คุณอุ้มมันขึ้นมาก็จะต้องทึ่งในลักษณะท่าทางของมัน นอกจากนี้ ความฉลาดและความอ่อนโยนก็จะทำให้คุณรัก อเมริกัน บ็อบเทล มากที่สุด
สำหรับรูปร่างและลักษณะนิสัยของ อเมริกัน บ็อบเทล มีตั้งแต่ขนาดกลางไปจนใหญ่ เป็นสัตว์ที่มีความเป็นนักกีฬา มีกล้ามเนื้อและพละกำลังแข็งแรง ร่างกายยาวพอสมควรและมั่นคง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หางควรจะมองเห็นอย่างชัดเจนเหนือหลังเวลาที่มันตกใจและความยาวต้องไม่เกิน หัวเข่า หางที่ดีจะต้องเกือบตรงมีส่วนโค้งเล็กน้อย แมวพันธุ์นี้มีหัวเป็นรูปลิ่มแข็งแรงได้ขนาดและมีคิ้วที่เด่นชัดอยู่เหนือ ดวงตาคู่ใหญ่รูปร่างคล้ายอัลมอนด์ทำให้มันมีความเป็นนักล่าโดยธรรมชาติ การแสดงออกทางสีหน้าและท่าทางก็แสดงให้เห็นถึงความฉลาดและตื่นตัว
ที่ปลายหูของเจ้าเหมียวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล ถือว่าเป็นจุดเด่น ขนที่มีลักษณะเฉพาะโดยมีขนสั้นความหนาปานกลางและขนยาวที่ความยาวพอเหมาะ ซึ่งมีความยืดหยุ่นและกันน้ำได้ ขนชั้นนอกจะหยาบส่วนขนด้านในจะคล้ายกับในกระต่ายซึ่งจะช่วยป้องกันตัวแมวจาก สภาพอากาศได้ เมื่อมันเคลื่อนไหวจะแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติในการเดินรวมทั้งลักษณะทาง กายภาพที่มีความคล้ายคลึงกับแมวป่า สัตว์พันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่มีการเจริญเติบโตช้าโดยจะต้องอาศัยเวลา 2-3 ปีกว่าที่จะโตเต็มตัว ถึงแม้แมวพันธุ์นี้จะมีลักษณะของสัตว์ป่าแต่อุปนิสัยและการปรับตัวก็มีความแตกต่างกัน
ลักษณะนิสัยของ แมวพันธ์ อเมริกัน บ็อบเทล
อเมริกัน บ็อบเทล เป็นแมวที่ใจดี น่ารัก และฉลาดอย่างมาก มันมีลักษณะนิสัยคล้ายสุนัข และรักเจ้าของมาก อเมริกัน บ็อบเทล สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะที่ยุ่งเหยิงหรือเงียบได้ ยีนของแมวพันธุ์นี้เป็นยีนเด่น ซึ่งจะต้องมีหางสั้นตามธรรมชาติเพื่อที่จะได้มีลูกแมวที่หางสั้นต่อไป ความยาวโดยเฉลี่ยของหางคือ1-4 นิ้ว อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงค่าเฉลี่ย โดยความเป็นจริงแล้วอาจจะสั้นหรือยาวกว่านี้ก็ได้
นอกจากนี้ อเมริกัน บ็อบเทล จะผูกพันกับครอบครัว มันเข้าได้ดีกับสุนัขและสัตว์แปลกหน้าไม่ว่าจะมี4ขา หรือ 2 ขา คนขับรถบรรทุกมักจะให้มันนั่งไปเป็นเพื่อนเพราะมันจะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี ถ้าฝึกตั้งแต่เด็ก ๆ นักบำบัดทางจิตวิทยายังใช้มันในโปรแกรมการรักษาด้วย เพราะมันมีพฤติกรรมที่ดี ทั้งยังอ่อนโยนต่อผู้คนที่อยู่ในความทุกข์หรือเศร้าโศกเสียใจ นอกจากนี้มันเป็นเพื่อนเล่นที่ดีของเด็ก ๆ อเมริกัน บ็อบเทล มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อคนทุกวัยและเหมาะที่จะเลี้ยงไว้ในครอบครัวเพื่อความเพลิดเพลิน
อย่างไรก็ตาม แมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล ชอบเล่นเกมส์ เช่น ให้วิ่งไปคาบ, เล่นซ่อนหา ซึ่ง อเมริกัน บ็อบเทล เล่นได้เป็นชั่วโมง ๆ มันจะเรียกร้องให้เราเล่นเกมส์กับมันและจะไม่หยุดจนกว่าเราจะเล่นด้วย โดยพื้นฐานแล้ว อเมริกัน บ็อบเทล จะเป็นแมวเงียบ ๆ แต่มันจะตื่นเต้นและส่งเสียงต่าง ๆ เวลาดีใจ เราสามารถล่ามโซ่ อเมริกัน บ็อบเทล ได้ง่ายและมันชอบที่จะออกไปเดินเล่น แมวพันธุ์นี้ชอบวัตถุที่ขึ้นเงา เป็นประกายเพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเก็บกล่องเครื่องเพชรให้ดี ๆ
ประวัติ แมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล
นอกเหนือจากคุณสมบัติเด่นที่กล่าวไปแล้ว แมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล ยังเป็นนักล่าที่เก่งกาจด้วยสัญชาตญาณในการเป็นนักล่าของมัน อเมริกัน บ็อบเทล มักจะช่วยจับแมลงที่บินภายในบ้าน มีรายงานว่าแมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล ส่วนใหญ่สามารถเปิดประตูบ้านเองได้โดยยืนด้วยขาหลังและหมุนลูกบิดประตูด้วยอุ้งเท้า และลักษณะที่ดีของมันอีกอย่างก็คือขนของมันต้องการการแปรงน้อยมากหรือไม่ต้องการเลย
ทั้งนี้ แมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล มีมาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว แต่เพิ่งจะมามีชื่อเสียงเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา มันเป็นหนึ่งในพันธุ์ที่เพิ่งจะได้รับการยอมรับจากสมาคม Cat Fanciers’ เมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ ปี 2000 ว่าเป็นพันธุ์ที่รู้จักกันมานานแล้ว และมีสายพันธุ์อยู่ทั่วโลกซึ่งเป็นหนึ่งในพันธุ์ที่น่าภูมิใจของอเมริกา ลักษณะที่เหมือนแมวป่าบวกกับลักษณะนิสัยที่เชื่องที่น่าพอใจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เพาะพันธุ์ที่ได้ทุ่มเทเวลา ความพยายามและกำลัง กายเพื่อที่จะให้ได้พันธุ์ที่น่าทึ่งนี้ พันธุ์อเมริกัน บ็อบเทล จึงสามารถอ้างสิทธิ์ได้อย่างภาคภูมิใจว่าเกิดในอเมริกา
การกำหนดราคาของ อเมริกัน บ็อบเทล ปกติจะขึ้นอยู่กับชนิด,ลักษณะที่เหมาะสม และสายเลือด ผู้เพาะพันธุ์ส่วนใหญ่จะเพาะพันธุ์ลูกแมวอายุระหว่าง 12-16 สัปดาห์ หลังจาก 12 สัปดาห์ ลูกแมวจะได้รับการเตรียมพร้อมและพัฒนาทางด้านกายภาพและสถานะทางสังคมซึ่งจำ เป็นต่อการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมใหม่,การแสดงหรือการขนส่งทางอากาศ การเลี้ยงไว้ในบ้าน,การทำหมันและจำกัดพื้นที่ให้พอเหมาะ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพที่ดีและมีความสุขของแมวพันธุ์นี้
ลักษณะทั่วไปของ แมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล
มีขนาดตั้งแต่ขนาดกลางถึงใหญ่ สามารถสังเกตความเป็นนักกีฬาของมันได้จากลักษณะของกล้ามเนื้อและพละกำลัง ร่างกายมีความยาวปานกลางเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแข็งแรงและมีไหล่ยื่นออกมา หางสั้นและสามารถเห็นได้เหนือหลังเวลามันตกใจโดยจะไม่ยาวไปถึงหัวเข่า พันธุ์นี้มีหัวที่แข็งแรง กว้างปานกลางเป็นรูปลิ่มโดยมีคิ้วที่เด่นเฉพาะตัวอยู่เหนือดวงตาโตคล้ายรูปอัลมอนด์ การแสดงออกทางสีหน้าท่าทางเป็นสิ่งที่แสดงถึงความฉลาดและความตื่นตัว โดยปกติตัวเมียจะมีสัดส่วนทีเล็กกว่าตัวผู้ ชนิดและลักษณะท่าทางจะมีความสำคัญมากกว่าขนาดตัว
อเมริกัน บ็อบเทลล์ มีลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกับสัตว์ป่าแต่มีอุปนิสัยใจคอและลักษณะนิสัยที่แตกต่างออกไป
หัว : กว้างเป็นรูปลิ่มโดยไม่มีส่วนแบนหรือส่วนที่เป็นโดม ได้สัดส่วนกับลำตัว ส่วนของปากและจมูกยื่นออกมาอย่างพอเหมาะ โหนกแก้มเห็นได้ชัด มีหนวดวางอยู่บนแก้มที่อูม ส่วนโค้งระหว่างจมูกกับคิ้วบางและมีความยาวระหว่างคิ้วกับหูพอเหมาะ คิ้วสามารถเห็นได้ชัดบริเวณหน้าผากเป็นแนวเหนือตา ขอบของคิ้วจะอูมขึ้นรอบตา จมูกกว้าง ผิวหนังรอบจมูกจะใหญ่ คางแข็งแรงและกว้างได้แนวกับจมูกความกว้างของหัวและเหนียงที่คอจะเห็นได้ใจ ตัวผู้ที่โตเต็มที่แล้ว
หู : มีขนาดปานกลาง ฐานกว้างมีขอบรอบๆหูบางอยู่ด้านบนสุดและด้านข้างสุดของหัว ขอบของหูยิ่งสูงยิ่งดี มีรอยสีเป็นรูปนิ้วอยู่ด้านหลังของหูหรือมีลายหรือลักษณะคล้ายแมวป่าเป็น ลักษณะที่ดี
ตา : ตามีขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายเม็ดอัลมอนด์ วางตัวอยู่ลึก มุมด้านนอกบางขึ้นไปถึงหู ตาสองข้างห่างจากกันพอเหมาะ คิ้วที่อยู่เหนือตาแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักล่าโดยธรรมชาติ
รูปร่าง : ค่อนข้างยาว และแข็งแรงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า อกเต็มและกว้าง สะโพกบางใหญ่มีแผ่นไหล่ยื่นออกมาจากลำตัว สะโพกแข็งแรงและเกือบกว้างเท่าอก สีข้างหนา มีกล้ามเนื้อ มีลักษณะแบบนักกีฬา มีการเจริญเติบโตเต็มที่ช้า
ขาและเท้า : ได้ขนาดกับร่างกาย มีความยาวพอเหมาะและมีกระดูกที่แข็งแรง อุ้งเท้าใหญ่และกลม มีปอยขนยาวที่นิ้วเท้า ขาหน้ามี 5นิ้ว ขาหลังมี 4นิ้ว
คอ : มีความยาวปานกลางแต่อาจจะสั้นขึ้นกับลักษณะของกล้ามเนื้อ
หาง : หางสั้น อาจตรง,เป็นส่วนโค้งเล็กน้อยหรือบิดงอเล็กน้อยหรือมีรอยขรุขระไปตามความยาว ของหาง หางอยู่ในแนวเดียวกับสะโพก มีฐานกว้าง แข็งแรงและทนต่อสัมผัส ไม่แข็งแต่ต้องยืดหยุ่นและไม่บิดจนไปทำลายธรรมชาติการเคลื่อนไหวของหาง หางที่ตรงจะได้รับการยอมรับกว่าหางที่งอ หางที่ตรงควรจะมีส่วนท้ายที่อูม ความยาวของหาง : จะต้องยาวพอที่จะเห็นได้ชัดเหนือส่วนหลังเวลาแมวตกใจ แต่จะต้องไม่เลยไปถึงหัวเข่า
ขนสั้น :
ความยาว : ปานกลาง หนาพอสมควร
ความหยาบ : ไม่พันกัน ยืดหยุ่นได้ดี ตรงปลายจะบาง
ความหนา : มีขน 2 ชั้น ส่วนบนหนานุ่ม, ส่วนล่างอ่อนนุ่ม
ความหลากหลาย : ขนสามารถสังเกตความแตกต่างได้ตามฤดู ขนอาจจะนุ่มขึ้น ความหยาบ ละเอียดหรือสีจางลง ตีนขนอาจจะมีสีเทามีลาย
ขนยาว :
ความยาว : ยาวปานกลาง หยาบเล็กน้อย ขนจะยาวเรียวบางลงบริเวณรอบคอสัตว์,สะดือและหาง
ขนรอบคอ : บางนุ่ม
ความหยาบ : ไม่พันกัน ยืดหยุ่น
ความหนา : ขน 2 ชั้น ตีนขนไม่หนามาก
ความหลากหลาย : ขนสามารถเปลี่ยนไปได้ตามฤดูกาล อาจนุ่มขึ้น,หยาบละเอียด,สีจางลง ตีน ขนอาจมีสีเทา มีลาย
พัฒนาการ : มีการพัฒนาร่างกายให้โตเต็มวัยช้า โดยร่างกายของแมวพันธุ์นี้จะค่อยๆเติบโตจนเต็มที่ตอนอายุได้ 3 ปี
ข้อบกพร่อง : หาง ที่ยาวเกินไปหรือสั้นเกินไปมีผลต่อการทรงตัวและลักษณะภายนอกของแมว หางที่บิดงอหรือขมวดเป็นปม หางที่แข็งไม่ยืดหยุ่นหรือวางตัวอยู่ต่ำ หางตรงแต่ส่วนท้ายไม่อูม ตากลม คางอ่อนส่วนปากและจมูกยื่นออกมาน้อยเกินไป
ลักษณะที่ไม่ได้คุณภาพ : หางไม่ได้ขนาด ตาผิดรูป กระดูกเปราะ มีจำนวนนิ้วเท้าไม่ถูกต้อง
สีและรูปแบบ : ทุกสีและทุกรูปแบบยอมรับได้ ไม่ค่อยยอมรับลักษณะที่มีลาย ลักษณะที่คล้ายแมวป่าเป็นที่ต้องการ
สีตา : ทุกสีที่เป็นไปได้แต่ต้องไม่มีลักษณะที่แปลก ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างตากับสีขน